ระดับประถมศึกษา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ ด.ญ. พิมพ์ภัสกร วัฒนกุลวิวัฒน์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ร.ร.อนุบาลเดิมบางนางบวช (วัดท่าช้าง) จ.สุพรรณบุรี
การประกวดเรียงความ
หัวข้อ “ฉันรักเมืองไทย” จัดโดย
มูลนิธิทรัพย์ปัญญา ร่วมกับ กองทัพเรือ GPSC และคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
ระดับประถมศึกษา รองชนะเลิศอันดับ 2
เด็กหญิงพิมพ์ภัสกร วัฒนกุลวิวัฒน์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
ร.ร.อนุบาลเดิมบางนางบวช (วัดท่าช้าง) จังหวัดสุพรรณบุรี
ฉันรักเมืองไทย
ฉันลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ด้วยพึ่งใบบุญแผ่นดินแห่งพระบารมีในสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ และแน่นอนที่ที่ฉันเกิด คือ เมืองไทย นั่นเอง จนตอนนี้ผ่านมา ๑๑ ปีแล้ว ฉันก็ยังคงอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ยังคงพึ่งใบบุญแผ่นดินสยามใต้ร่มพระบารมีในสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งเป็นลูกของท่าน ที่ดูแลรักษาปกป้องประเทศไทยนี้ให้ร่มเย็น สงบ เป็นสุข และมีความสุขอย่างเหลือล้น ฉันจึงอยากจะบอกกับทุกคน ว่า...ฉันรักเมืองไทย...อย่างสุดหัวใจ เหลือเกิน
หลายครั้งที่ฉันเดินทางไปต่างประเทศกับครอบครัว และได้พบเจอกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างแดน ฉันสังเกตได้ว่าในที่พักของคนไทยเหล่านั้นจะมีภาพพระมหากษัตริย์ติดไว้ที่ผนังเหนือหัวเพื่อเทิดทูนและเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวหัวใจ เพื่อให้คลายความคิดถึงบ้าน คลายความคิดถึงแผ่นดินบ้านเกิด จากคนไม่รู้จักกันพอทราบว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน ก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทักทายกัน ดูแลกัน ใส่ใจกันเหมือนญาติมิตร ฉันรู้สึกอบอุ่นมากเหมือนได้เจอคนที่รู้จักกันมานาน คงไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ที่เป็นแบบนี้อีกแล้ว และฉันก็พร้อมที่จะบอกกับทุกคนบนโลกใบนี้ว่า “ฉันรักเมืองไทย” ฉันรักที่คนไทยเป็นแบบนี้
แม้แต่ในประเทศไทยก็ไม่แพ้กัน มีครั้งหนึ่งตอนนั้นฉันยังเล็กแต่พอจำความได้คร่าวๆ ว่าตอนนั้นฉันไปพักผ่อนกับครอบครัวที่อำเภอหัวหิน และวันนั้นตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่อำเภอหัวหินมีการจัดงานจุดเทียนถวายความอาลัย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ที่หน้าพระราชวังวังไกลกังวล ฉันเห็นคนอำเภอหัวหินมารวมตัวกันเยอะมาก คนต่างชาติก็มี แสงเทียนสว่างไสวทั่วไปหมด หากพ่อหลวงที่อยู่บนฟ้ามองลงมา คงจะชื่นใจที่พวกเราคนไทยยังคงรัก สามัคคี และระลึกถึงพระองค์ท่าน ฉันคิดมาเสมอเลยว่าคนหัวหินช่างโชคดีที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน ฉันภูมิใจเหลือเกินที่ฉันเกิดเป็นคนไทย ฉันรักที่คนไทยมีความรักที่เป็นศูนย์รวมใจในที่เดียวกัน “ฉันรักเมืองไทย” ฉันรักที่คนไทยเป็นแบบนี้
เมื่อช่วงกลางปี ๒๕๖๗ ที่ผ่านมาทางภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทยเราน้ำท่วม ฉันดูข่าวในโทรทัศน์ ฉันรู้สึกสงสารผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นอย่างมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันตื้นตันใจ มองเห็นถึงความเป็นคนไทย และรักเมืองไทยมากขึ้น นั่นก็คือ สายธารแห่งน้ำใจจากทั่วสารทิศที่หลั่งไหลไปช่วยเหลือคนภาคเหนือกับภาคอีสาน โดยที่ไม่แบ่งแยก แบ่งกั้นชนชั้น ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เสื้อผ้า และที่พักชั่วคราว ฉันเห็นภาพชาวบ้านที่ประสบภัยยืนร้องไห้มองสภาพบ้านตัวเองที่ถูกน้ำท่วม และเห็นภาพคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เข้ามาโอบกอดพูดปลอบใจให้หายเศร้า ให้คลายทุกข์ มันเป็นภาพที่ประทับใจในใจฉันอย่างบอกไม่ถูก แสดงถึงความรักกันของคนในชาติ “ฉันรักเมืองไทย” ฉันรักที่คนไทยเป็นแบบนี้
หากใครได้เล่น TikTok คงพอได้เห็นความน่ารักและเรื่องราวน่าประทับใจของ ๒ หนุ่ม ชาวเกาหลีที่ชื่อจอง กับคัลแลน ที่มีต่อประเทศไทยของเรา คลิปของชาวเกาหลี ๒ ท่านนี้ จะไม่มีชื่อเสียงเลยหากขาดความมีเสน่ห์ของเมืองไทย หลายๆคลิปของพวกเขาเราจะเห็นคนไทยแสดงความมีน้ำใจกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งรอยยิ้ม การต้อนรับ รวมทั้งการแนะนำต่างๆ ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยที่มาประเทศไทยของเรา และสถานที่ท่องเที่ยวของเราก็สวยงามน่ามาเยี่ยมชม ทำให้เมืองไทยดูเป็นเมืองที่น่าอยู่ น่ามาเยือนสักครั้ง ประเทศไทยมีชื่อเสียงไปทั่วจากวีดีโอที่พวกเขานำเสนอ ผู้คนจากทั่วโลกรู้จักเมืองไทยอย่างแพร่หลายผ่านช่องทาง Tiktok ของพวกเขา ขนาดคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างแผ่นดินยังหลงรักในประเทศไทยของเรา และอยากมาอยู่เมืองไทยของเรา และฉันเป็นคนไทย ได้เกิดมาในประเทศไทยที่สวยงาม ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีจิตใจดีและมีน้ำใจ ฉันไม่อายใครเลยที่จะบอกว่า ฉันเป็นเป็นคนไทย “ฉันรักเมืองไทย” ฉันรักที่คนไทยเป็นแบบนี้
พี่ลิซ่าก็เป็นคนไทยอีกหนึ่งคน ที่ฉันชื่นชอบตัวตนในความเป็นคนไทยและความรักประเทศไทยของพี่ลิซ่า พี่ลิซ่ามีชื่อเสียงไปทั่วโลกแต่พี่ลิซ่าไม่เคยลืมความเป็นคนไทยเลย พี่ลิซ่าจะสอดแทรกความเป็นคนไทย ความเป็นประเทศไทยในทุกช่องทางที่พี่ลิซ่าจะสามารถทำได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการยกมือไหว้ การกล่าวภาษาไทย “สวัสดีค่ะ” หรือ “ขอบคุณค่ะ” บนเวทีโลกหลายต่อหลายครั้ง การสอดแทรกศิลปวัฒนธรรมไทยในผลงานของพี่ลิซ่า หรือแม้แต่การลงภาพสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามของประเทศไทยในอินสตาแกรมส่วนตัว ฉันเชื่อเหลือเกินว่าผู้ติดตามพี่ลิซ่าทั้งหนึ่งร้อยกว่าล้านคนทั่วโลก จะอยากมาเยี่ยมชมเมืองไทย อยากมาทานอาหารไทย อยากแต่งกายแบบไทย และจะหลงรักเมืองไทยของเรา อย่างที่พี่ลิซ่ารักเมืองไทย อย่างที่ฉันรักเมืองไทย และหากฉันได้เป็นเหมือนพี่ลิซ่า ฉันก็จะทำแบบพี่ลิซ่าเช่นกัน เพราะ “ฉันรักเมืองไทย” อย่างสุดหัวใจ
อาหารไทยและโบราณสถานก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันภาคภูมิใจในความเป็นเมืองไทยเป็นอย่างมาก ฉันเป็นคนโชคดีที่ทุกวันหยุดปิดเทอม คุณพ่อกับคุณแม่จะพาไปเที่ยวในจังหวัดที่มีชื่อเสียงเสมอ ปิดเทอมเมื่อหลายปีก่อนคุณพ่อกับคุณแม่พาฉันไปเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉันมีโอกาสได้ใส่ชุดไทยและถ่ายภาพกับวัดไชยวัฒนาราม เหมือนฉันได้ย้อนยุคไปเป็นคนสมัยก่อนเลยทีเดียว ซึ่งช่วงนั้นละครเรื่องบุพเพสันนิวาสกำลังโด่งดังเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากทั่วสารทิศมาเที่ยวชมโบราณสถานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยากันอย่างคึกคัก ฉันไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉันได้ทานกุ้งแม่น้ำจากลุ่มน้ำป่าสักจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทานมะม่วงน้ำปลาหวานของแท้จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มันเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับฉัน แต่ฉันชอบเพราะฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคนที่มาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พวกเขาคงรู้สึกรักชาติ รักประเทศไทยเหมือนอย่างที่ฉันรัก ฉันรู้สึกนั่นแหละ
บทสนทนาของนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทย ฉันตื่นเต้นมาก เพราะฉันเกิดไม่ทันในช่วงนั้น ฉันได้รับรู้ประวัติศาสตร์จากการบอกเล่า การอ่านหนังสือ และการดูละคร ทำให้ฉันได้รับรู้ว่าคนไทยสมัยก่อนรักและหวงแหนแผ่นดินถิ่นเกิดเป็นอย่างยิ่ง ฉันช่างโชคดีที่มีบรรพบุรุษคอยปกบ้านป้องเมืองไว้ให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีอะไรที่ฉันจะภูมิใจมากไปกว่าเอกราชของชาติไทยที่มีมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะมีอายุแค่ ๑๑ ปี แต่หากมีอะไรที่ฉันจะตอบแทน หรือทดแทนประเทศแผ่นดินเกิดของฉันได้ ฉันก็ยินดีที่จะทำ เพราะ “ฉันรักเมืองไทย”
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเขียนมาทั้งหมดนี้ คือความภูมิใจอย่างที่สุดที่ฉันได้เกิดเป็นคนไทย ฉันภูมิใจในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องกว้างใหญ่เหมือนดินแดนประเทศอื่น แต่ดินแดนประเทศของฉันเต็มไปด้วยผู้คนที่มีความรักชาติ ความภักดีต่อชาติ ความภูมิใจต่อแผ่นดินนี้ และมีความรักต่อที่แห่งนี้ ทั้งหมดนี้หล่อหลอมอยู่ในหัวใจของฉัน ถึงฉันจะอายุแค่ ๑๑ ปี แต่ฉันเชื่อว่าความรักเมืองไทยของฉันไม่แพ้ใครแน่นอน อย่างน้อยฉันก็เป็นเด็ก เป็นอนาคตของชาติคนหนึ่งที่จะเติบโดต่อไป ฉันจะนำพาประเทศไทยของฉัน ไปในทางที่ดีงามอย่างแน่นอน ฉันสัญญา “ฉันรักเธอ” “ฉันรักเมืองไทย”
-------------------------------